top of page
phone-call
Line
LOGO-AELLA HARDWARE BLACK.png

บริษัท แอลล่า ฮาร์ดแวร์ จำกัด

AELLA HARDWARE.png
AELLA HARDWARE-1.png
facebook

วิธีเลือกมือจับก้านโยกให้เหมาะกับประตูแต่ละประเภท

  • aellahardware
  • 21 ก.พ.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 25 ส.ค.

ทำไมต้องเลือกมือจับก้านโยกให้เหมาะกับประตู

มือจับก้านโยก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การเปิด-ปิดประตูเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย นอกจากเรื่องของดีไซน์แล้ว การเลือกมือจับที่เหมาะสมกับประเภทประตูยังช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และยืดอายุการใช้งานได้อีกด้วย

ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่ ประเภทของประตู วัสดุของมือจับ และระบบล็อก ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อการเลือกใช้ มือจับประตูก้านโยก ที่เหมาะสมที่สุด


มือจับก้านโยก
Line

ประเภทของประตูและการเลือกมือจับก้านโยกให้เหมาะสม

1. ประตูไม้

ประตูไม้ เป็นประตูที่พบได้มากที่สุดในบ้าน มีทั้งแบบไม้จริงและไม้สังเคราะห์ ซึ่งมีน้ำหนักแตกต่างกัน

คำแนะนำในการเลือกมือจับก้านโยก

  • หากเป็น ประตูไม้เนื้อแข็ง ควรเลือก มือจับก้านโยกสแตนเลส หรือ ทองเหลือง เพื่อความแข็งแรง

  • สำหรับ ประตูไม้เนื้ออ่อน สามารถใช้มือจับที่มีน้ำหนักเบา เช่น อะลูมิเนียมหรือซิงค์อัลลอยด์

  • หากเป็น ประตูห้องน้ำไม้ ควรเลือกมือจับที่มีระบบล็อกกันน้ำ

2. ประตูเหล็ก

ประตูเหล็ก มักใช้กับทางเข้าบ้าน หรือประตูที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ประตูโรงงานและโกดังสินค้า

คำแนะนำในการเลือกมือจับก้านโยก

  • ควรเลือก มือจับก้านโยกแบบมีโครงสร้างแข็งแรง เช่น สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316

  • แนะนำให้เลือกมือจับที่มี ระบบล็อกหลายจุด เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

3. ประตูอะลูมิเนียม

ประตูอะลูมิเนียม เป็นที่นิยมสำหรับอาคารสำนักงาน หรือบ้านสไตล์โมเดิร์น เพราะมีน้ำหนักเบาและทนทานต่อสภาพอากาศ

คำแนะนำในการเลือกมือจับก้านโยก

  • เลือกมือจับที่มีน้ำหนักเบา เช่น อะลูมิเนียมหรือซิงค์อัลลอยด์

  • ควรเป็นแบบที่ติดตั้งง่าย และมีระบบล็อกที่ช่วยเสริมความปลอดภัย

4. ประตูภายในบ้าน

ประตูภายในบ้าน เช่น ประตูห้องนอน ประตูห้องน้ำ และประตูห้องทำงาน

คำแนะนำในการเลือกมือจับก้านโยก

  • ควรเลือกมือจับที่มีดีไซน์เข้ากับสไตล์ของบ้าน เช่น สแตนเลสด้านเงาหรือด้านด้าน

  • ประตูห้องน้ำ ควรเลือกมือจับที่มีระบบล็อกภายใน และสามารถปลดล็อกจากด้านนอกได้ในกรณีฉุกเฉิน

5. ประตูภายนอกบ้าน

ประตูภายนอก ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และอาจถูกงัดแงะได้ง่าย

คำแนะนำในการเลือกมือจับก้านโยก

  • ควรใช้ มือจับก้านโยกสแตนเลสเกรดสูง ซึ่งกันสนิมและทนแดดฝน

  • เลือกมือจับที่มี ระบบล็อกแบบ Deadbolt หรือ Smart Lock เพื่อเพิ่มความปลอดภัย

วัสดุของมือจับก้านโยกและการเลือกให้เหมาะสม

1. มือจับก้านโยกสแตนเลส

ข้อดี: แข็งแรง กันสนิม ใช้งานได้นาน

เหมาะกับ: ประตูไม้ ประตูเหล็ก และประตูภายนอกบ้าน

2. มือจับก้านโยกอะลูมิเนียม

ข้อดี: น้ำหนักเบา ทนทาน ราคาไม่แพง

เหมาะกับ: ประตูอะลูมิเนียม และประตูภายในบ้าน

3. มือจับก้านโยกทองเหลือง

ข้อดี: ดีไซน์หรูหรา แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน

เหมาะกับ: ประตูไม้สไตล์คลาสสิก และประตูบ้านหรู

4. มือจับก้านโยกพีวีซี

ข้อดี: ราคาถูก น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

เหมาะกับ: ประตูเฟอร์นิเจอร์ และประตูตู้

ฟังก์ชันและระบบล็อกของมือจับก้านโยก

  1. มือจับก้านโยกแบบไม่มีล็อก – เหมาะกับประตูภายในบ้าน เช่น ประตูห้องนั่งเล่น

  2. มือจับก้านโยกแบบมีระบบล็อก – ใช้กับประตูห้องน้ำหรือห้องนอน เพื่อความเป็นส่วนตัว

  3. มือจับก้านโยกที่รองรับระบบ Smart Lock – เหมาะกับประตูภายนอก เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

การเลือก มือจับก้านโยก ให้เหมาะสมกับประเภทของประตูมีความสำคัญทั้งในแง่ของการใช้งาน ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ประตูไม้และประตูเหล็กเหมาะกับมือจับก้านโยกที่มีความแข็งแรง เช่น สแตนเลสหรือทองเหลือง ในขณะที่ประตูอะลูมิเนียมควรใช้มือจับที่มีน้ำหนักเบา เช่น อะลูมิเนียมหรือซิงค์อัลลอยด์ สำหรับประตูภายในบ้าน เช่น ประตูห้องนอนและประตูห้องน้ำ ควรเลือกมือจับที่มีดีไซน์เข้ากับสไตล์ของบ้านและมีระบบล็อกที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ประตูภายนอกบ้านควรเลือกใช้มือจับก้านโยกที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศและมีระบบล็อกเสริมเพื่อความปลอดภัยสูงสุด วัสดุของมือจับก้านโยกก็มีผลต่อความทนทานและความสวยงาม โดยมือจับก้านโยกสแตนเลสมีความแข็งแรงและกันสนิมได้ดี มือจับก้านโยกอะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบาและเหมาะกับประตูภายใน ส่วนมือจับก้านโยกทองเหลืองให้ความหรูหราและเหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิก การเลือกมือจับที่ถูกต้องจะช่วยให้ประตูใช้งานได้สะดวกขึ้น มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านได้อีกด้วย


Line

ความคิดเห็น


bottom of page