top of page
phone-call
Line
LOGO-AELLA HARDWARE BLACK.png

บริษัท แอลล่า ฮาร์ดแวร์ จำกัด

AELLA HARDWARE.png
AELLA HARDWARE-1.png
facebook

มือจับประตูมีแบบไหนบ้าง ต่างกันอย่างไร ก่อนซื้อต้องรู้

  • aellahardware
  • 8 ม.ค.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 25 ส.ค.

มือจับประตูถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ประตูใช้งานได้สะดวกและมีความปลอดภัย นอกจากเรื่องฟังก์ชันแล้ว มือจับประตูยังมีบทบาทในการเสริมความสวยงาม และช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้านหรืออาคาร ดังนั้น การเลือกมือจับประตูที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ


มือจับเฟอร์นิเจอร์

Line

ประเภทของมือจับประตู

มือจับประตูมีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบมีคุณสมบัติและการใช้งานที่ต่างกัน ดังนี้:

1. มือจับแบบลูกบิด (Knob Handle)

  • ลักษณะ :

    มือจับมีรูปทรงกลม ใช้การหมุนลูกบิดเพื่อเปิด-ปิดประตู

  • การใช้งาน :

    เหมาะกับประตูภายในบ้าน เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องที่ไม่ต้องการความปลอดภัยสูง

  • ข้อดี :

    • ราคาไม่แพง

    • ติดตั้งง่าย

    • มีดีไซน์หลากหลาย

  • ข้อเสีย :

    • ใช้งานยากสำหรับเด็กหรือผู้สูงอายุที่แรงมือไม่มาก

    • ความปลอดภัยน้อยเมื่อเทียบกับมือจับประเภทอื่น

2. มือจับแบบคันโยก (Lever Handle)

  • ลักษณะ :

    มือจับเป็นด้ามยาว สามารถกดลงหรือยกขึ้นเพื่อเปิด-ปิด

  • การใช้งาน :

    เหมาะสำหรับทุกประเภทของประตู ทั้งประตูภายในและประตูภายนอก

  • ข้อดี :

    • ใช้งานง่าย ไม่ต้องออกแรงมาก

    • สะดวกสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ

    • มีรูปแบบที่หรูหราและดูทันสมัย

  • ข้อเสีย :

    • ต้องการพื้นที่ติดตั้งมากกว่าลูกบิด

    • อาจเกะกะพื้นที่แคบ

3. มือจับแบบฝัง (Recessed Handle)

  • ลักษณะ :

    ฝังอยู่ในประตู มีลักษณะเป็นช่องเว้าลึก

  • การใช้งาน :

    นิยมใช้กับประตูเลื่อนหรือประตูบานเฟี้ยม

  • ข้อดี :

    • ประหยัดพื้นที่

    • ดูเรียบง่ายและทันสมัย

    • เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด

  • ข้อเสีย :

    • ใช้งานไม่สะดวกเท่ามือจับประเภทอื่น

    • อาจต้องการการซ่อมแซมเฉพาะทาง

4. มือจับแบบบาร์ (Bar Handle)

  • ลักษณะ :

    เป็นแท่งยาวแนวตั้งหรือแนวนอน ติดตั้งบนบานประตู

  • การใช้งาน :


    เหมาะสำหรับประตูบ้านที่ต้องการความแข็งแรง เช่น ประตูหน้าบ้าน หรือประตูสำนักงาน

  • ข้อดี :

    • แข็งแรง ทนทาน

    • ช่วยเพิ่มความหรูหราให้ประตู

    • ใช้งานได้ง่าย

  • ข้อเสีย :

    • ราคาสูงกว่ามือจับแบบลูกบิดหรือคันโยก

    • ต้องติดตั้งด้วยช่างที่มีความชำนาญ

5. มือจับแบบดิจิทัล (Digital Handle)

  • ลักษณะ :

    เป็นมือจับที่มาพร้อมระบบล็อกอัจฉริยะ เช่น รหัสผ่าน คีย์การ์ด หรือสแกนลายนิ้วมือ

  • การใช้งาน :

    เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความปลอดภัยสูง หรือสำนักงานที่ต้องการควบคุมการเข้าออก

  • ข้อดี :

    • ใช้งานสะดวก ทันสมัย

    • เสริมความปลอดภัยระดับสูง

    • ไม่ต้องพกกุญแจ

  • ข้อเสีย :

    • ราคาสูง

    • ต้องการการดูแลรักษา เช่น เปลี่ยนแบตเตอรี่

วัสดุที่ใช้ทำมือจับประตู

วัสดุที่ใช้ในการผลิตมือจับประตูมีผลต่อความทนทานและดีไซน์ โดยวัสดุยอดนิยม ได้แก่:

  1. สแตนเลส (Stainless Steel) :

    • แข็งแรง ทนต่อสนิม

    • เหมาะสำหรับประตูภายนอก

  2. อลูมิเนียม (Aluminium) :

    • น้ำหนักเบา ราคาประหยัด

    • ใช้กับประตูภายใน

  3. ทองเหลือง (Brass) :

    • ดูหรูหรา มีความคลาสสิก

    • ทนต่อการใช้งานในระยะยาว

  4. ไม้ (Wood) :

    • ให้ความอบอุ่น เข้ากับบ้านสไตล์คลาสสิกหรือวินเทจ

  5. พลาสติก (Plastic) :

    • น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง

    • เหมาะกับการใช้งานชั่วคราวหรือประตูห้องเด็ก

เคล็ดลับก่อนเลือกซื้อมือจับประตู

  1. เลือกตามการใช้งาน :

    • ใช้มือจับลูกบิดสำหรับประตูห้องนอนหรือห้องน้ำ

    • ใช้มือจับบาร์สำหรับประตูหน้าบ้านที่ต้องการความแข็งแรง

  2. ดูความปลอดภัย :

    • ประตูภายนอกควรมีระบบล็อกที่แน่นหนา

    • หากต้องการความปลอดภัยสูง ควรพิจารณามือจับดิจิทัล

  3. เลือกวัสดุที่เหมาะสม :

    • สแตนเลสหรือทองเหลืองสำหรับประตูที่ต้องการความทนทาน

    • อลูมิเนียมหรือพลาสติกสำหรับการใช้งานทั่วไป

  4. คำนึงถึงสไตล์ :

    • เลือกดีไซน์ที่เข้ากับการตกแต่งภายในบ้าน

    • บ้านโมเดิร์นอาจเหมาะกับมือจับบาร์หรือมือจับดิจิทัล

  5. ตั้งงบประมาณ :

    • เปรียบเทียบราคากับคุณภาพ เพื่อให้ได้สินค้าที่คุ้มค่า

Line

ความคิดเห็น


bottom of page